ฝรั่งกิมจูที่ ห้วยองคต - เกษตรทั่วไทย
วันศุกร์ที่ 14 กันยายน 2555 เวลา 00:00 น.
นายอำพล เสนาณรงค์ องคมนตรี เป็นประธานมอบเอกสารสิทธิทำกิน (สทก.)
โครงการห้วยองคตอันเนื่องมาจากพระราชดำริ จังหวัดกาญจนบุรี โดยมี
นายเฉลิมเกียรติ แสนวิเศษ เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการพิเศษเพื่อประสาน
งานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ (สำนักงาน กปร.) นายชัยวัฒน์
ลิมป์วรรณธะ ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี และเจ้าหน้าที่โครงการฯ
ให้การต้อนรับและร่วมมอบเอกสารสิทธิฯ เมื่อช่วงปลายเดือนสิงหาคม 2555
ที่ผ่านมา เพื่อให้ราษฎรในพื้นที่ได้มีที่ทำกินเป็นของตนเอง
ปัจจุบันราษฎรในพื้นที่โครงการฯ
ได้รับการส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตให้มีสภาพความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นทั้ง
ด้านที่ดินทำกิน ที่อยู่อาศัย การศึกษา สุขภาพอนามัย อาชีพ การคมนาคม
การสื่อสาร มีการสืบสานวัฒนธรรมท้องถิ่น มีความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน
และมีการส่งเสริมการจัดตั้งกลุ่มอาชีพ เช่น การเลี้ยงไก่ การเลี้ยงแพะ
การเลี้ยงปลา การเลี้ยงสุกร มีศูนย์เรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียง
โดยจัดแปลงสาธิตการปลูกพืชเศรษฐกิจ โดยทางโครงการฯ
ได้จัดแบ่งที่ดินทำกินครอบครัวละ 8 ไร่ ครอบครัวใหญ่ 16 ไร่ รวม 907 แปลง
และแปลงที่อยู่อาศัยครอบครัวละ 1 ไร่ รวม 780 แปลง
โดยมีหลักเกณฑ์ห้ามซื้อขายและให้เป็นมรดกตกทอดแก่ลูกหลานเท่านั้น
และฝรั่งกิมจู
เป็นพืชให้ผลอีกชนิดหนึ่งที่มีการส่งเสริมให้เพาะปลูกเป็นพืชเชิงพาณิชย์ของ
เกษตรกรในโครงการฯ
เนื่องจากใช้เวลาในการเพาะปลูกไม่นานก็ให้ผลผลิตและมีตลาดรองรับแน่นอน
จำหน่ายได้ตลอดทั้งปี เพราะเป็นฝรั่งที่มีเมล็ดน้อย ติดผลดก
ผลผลิตมีราคาดีไม่แตกต่างจากฝรั่งไร้เมล็ด และมีข้อได้เปรียบคือ ติดผลง่าย
ออกผลดก เมล็ดมีน้อย รสชาติหวานกรอบ ผลมีขนาดพอเหมาะ
ไม่เล็กและใหญ่จนเกินไป ประมาณ 400-800 กรัมต่อผล ปลูกได้ทุกพื้นที่
ดินเค็มก็ปลูกได้
เกษตรกรในโครงการห้วยองคตฯ
ปลูกในลักษณะสวนโดยจัดระยะปลูกระหว่างแถวและระหว่างต้นประมาณ 3x 3 เมตร
ในเนื้อที่ 1 ไร่ ปลูกได้ประ มาณ 160 ต้น
ก่อนปลูกมีการปรับปรุงดินโดยตากดินเพื่อฆ่าเชื้อโรคและเมล็ดวัชพืช
หลังจากขุดหลุมปลูก ใส่ปุ๋ยคอกและปุ๋ยหมักในปริมาณเท่า ๆ กันอัตราปุ๋ย 1
ส่วนต่อดิน 2 ส่วน เพื่อให้ดินร่วนซุย
หลังจากเตรียมหลุมปลูกเรียบร้อยแล้ว นำกิ่งพันธุ์ที่ชำไปปลูกลงในหลุม
กลบดินให้แน่นพอสมควร แล้วใช้ไม้ปักเป็นหลักผูกกันลมโยกและรดน้ำทันที
จากนั้นใช้ทางมะพร้าวมาคลุมพรางแสงแดดให้แก่ต้นฝรั่งจนกว่าต้นฝรั่งจะตั้ง
ตัวได้
รดน้ำในช่วงระยะแรกจนกว่าต้นฝรั่งตั้งตัวได้หลังจากนั้นสังเกตดูความชุ่ม
ชื้นของดิน ถ้าดินแห้งมากก็ให้น้ำ และถ้ามีฝนตกหนักก็ระบายน้ำออก
การให้น้ำจะค่อย ๆ เพิ่มขึ้นตามความต้องการของต้นฝรั่ง
ปริมาณความชื้นของดินในระหว่างการออกผลมีความสำคัญ
เพราะจะก่อให้เกิดการร่วง การแตก
เกษตรกรที่นี่ใส่ปุ๋ยคอกให้กับฝรั่งเมื่อออกดอกประมาณ 2
กิโลกรัมต่อต้นต่อปี ควบคู่กับการให้น้ำอย่างสม่ำเสมอ ไม่พรวนดินลึก
เพราะจะทำให้รากของต้นฝรั่งขาดได้ ฝรั่งจะเริ่มออกผลเมื่ออายุประมาณ 6
เดือน จากนั้นจะใช้ไม้ไผ่ปักไว้เพื่อพยุงผลฝรั่ง
โดยใช้ปลายหรือแขนงไม้ไผ่ขนาดเล็กยาว 1 เมตร
หรือมากกว่านั้นปักใกล้กับกิ่งที่ออกผลแล้ว โดยผูกยึดกับกิ่งไว้
บางสวนจะผูกขั้วผลกับกิ่งหรือไม้ปักเพื่อไม่ให้ผลถ่วงต้น
เพราะน้ำหนักผลฝรั่งมาก ถ้ามีลมพัดแรงต้นจะเฉาตายและรากจะขาดได้
เมื่อเก็บผลผลิตแล้วจะตัดแต่งกิ่งเพราะจะช่วยให้ฝรั่งเกิดกิ่งอ่อน
และมีช่อดอกออกมาทันที ด้วยการทำให้ทรงพุ่มโปร่ง ได้สัดส่วน
อากาศถ่ายเทได้สะดวก แสงแดดส่องได้ทั่วถึง สะดวกในการเก็บผล
ทำให้ได้ผลผลิตที่แน่นอน ผลมีขนาดใหญ่
จะตัดแต่งกิ่งทุกปีเพื่อกระตุ้นการเจริญ และการสร้างตาดอก ใน
ต้นที่สมบูรณ์จะตัดกิ่งก้านออก 25-30%
สำหรับต้นที่ไม่แข็งแรงตัดกิ่งก้านออกประมาณ 20%
นอกจากการตัดแต่งกิ่งแล้วเกษตรกรที่นี่ปลิดผลทิ้งให้เหลือประมาณ 2-6 ผล
ต่อกิ่งเท่านั้น ซึ่งจะดีต่อการได้มาซึ่งลูกฝรั่งที่ต้องการบริโภคผลสด
แต่ถ้าต้องการผลขนาดใหญ่และมีคุณภาพดี ก็จะให้เหลือเพียง 1
ผลต่อกิ่งเท่านั้น
ที่สำคัญเกษตรกรจะห่อผลฝรั่งเพื่อป้องกันกำจัดโรคและแมลงศัตรูฝรั่ง
และทำให้ผลฝรั่งมีผิวสวยน่ารับประทาน
โดยใช้ถุงพลาสติกหรือใช้กระดาษหนังสือพิมพ์ห่อก่อนแล้วจึงสวมถุงพลาสติกทับ
อีกชั้นหนึ่ง
โดยจะเริ่มห่อผลฝรั่งเมื่อมีขนาดเท่าลูกมะนาวหรือหลังดอกบานแล้ว 1 เดือน.
วันศุกร์ที่ 14 กันยายน 2555 เวลา 00:00 น.
นายอำพล เสนาณรงค์ องคมนตรี เป็นประธานมอบเอกสารสิทธิทำกิน (สทก.)
โครงการห้วยองคตอันเนื่องมาจากพระราชดำริ จังหวัดกาญจนบุรี โดยมี
นายเฉลิมเกียรติ แสนวิเศษ เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการพิเศษเพื่อประสาน
งานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ (สำนักงาน กปร.) นายชัยวัฒน์
ลิมป์วรรณธะ ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี และเจ้าหน้าที่โครงการฯ
ให้การต้อนรับและร่วมมอบเอกสารสิทธิฯ เมื่อช่วงปลายเดือนสิงหาคม 2555
ที่ผ่านมา เพื่อให้ราษฎรในพื้นที่ได้มีที่ทำกินเป็นของตนเอง
ปัจจุบันราษฎรในพื้นที่โครงการฯ
ได้รับการส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตให้มีสภาพความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นทั้ง
ด้านที่ดินทำกิน ที่อยู่อาศัย การศึกษา สุขภาพอนามัย อาชีพ การคมนาคม
การสื่อสาร มีการสืบสานวัฒนธรรมท้องถิ่น มีความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน
และมีการส่งเสริมการจัดตั้งกลุ่มอาชีพ เช่น การเลี้ยงไก่ การเลี้ยงแพะ
การเลี้ยงปลา การเลี้ยงสุกร มีศูนย์เรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียง
โดยจัดแปลงสาธิตการปลูกพืชเศรษฐกิจ โดยทางโครงการฯ
ได้จัดแบ่งที่ดินทำกินครอบครัวละ 8 ไร่ ครอบครัวใหญ่ 16 ไร่ รวม 907 แปลง
และแปลงที่อยู่อาศัยครอบครัวละ 1 ไร่ รวม 780 แปลง
โดยมีหลักเกณฑ์ห้ามซื้อขายและให้เป็นมรดกตกทอดแก่ลูกหลานเท่านั้น
และฝรั่งกิมจู
เป็นพืชให้ผลอีกชนิดหนึ่งที่มีการส่งเสริมให้เพาะปลูกเป็นพืชเชิงพาณิชย์ของ
เกษตรกรในโครงการฯ
เนื่องจากใช้เวลาในการเพาะปลูกไม่นานก็ให้ผลผลิตและมีตลาดรองรับแน่นอน
จำหน่ายได้ตลอดทั้งปี เพราะเป็นฝรั่งที่มีเมล็ดน้อย ติดผลดก
ผลผลิตมีราคาดีไม่แตกต่างจากฝรั่งไร้เมล็ด และมีข้อได้เปรียบคือ ติดผลง่าย
ออกผลดก เมล็ดมีน้อย รสชาติหวานกรอบ ผลมีขนาดพอเหมาะ
ไม่เล็กและใหญ่จนเกินไป ประมาณ 400-800 กรัมต่อผล ปลูกได้ทุกพื้นที่
ดินเค็มก็ปลูกได้
เกษตรกรในโครงการห้วยองคตฯ
ปลูกในลักษณะสวนโดยจัดระยะปลูกระหว่างแถวและระหว่างต้นประมาณ 3x 3 เมตร
ในเนื้อที่ 1 ไร่ ปลูกได้ประ มาณ 160 ต้น
ก่อนปลูกมีการปรับปรุงดินโดยตากดินเพื่อฆ่าเชื้อโรคและเมล็ดวัชพืช
หลังจากขุดหลุมปลูก ใส่ปุ๋ยคอกและปุ๋ยหมักในปริมาณเท่า ๆ กันอัตราปุ๋ย 1
ส่วนต่อดิน 2 ส่วน เพื่อให้ดินร่วนซุย
หลังจากเตรียมหลุมปลูกเรียบร้อยแล้ว นำกิ่งพันธุ์ที่ชำไปปลูกลงในหลุม
กลบดินให้แน่นพอสมควร แล้วใช้ไม้ปักเป็นหลักผูกกันลมโยกและรดน้ำทันที
จากนั้นใช้ทางมะพร้าวมาคลุมพรางแสงแดดให้แก่ต้นฝรั่งจนกว่าต้นฝรั่งจะตั้ง
ตัวได้
รดน้ำในช่วงระยะแรกจนกว่าต้นฝรั่งตั้งตัวได้หลังจากนั้นสังเกตดูความชุ่ม
ชื้นของดิน ถ้าดินแห้งมากก็ให้น้ำ และถ้ามีฝนตกหนักก็ระบายน้ำออก
การให้น้ำจะค่อย ๆ เพิ่มขึ้นตามความต้องการของต้นฝรั่ง
ปริมาณความชื้นของดินในระหว่างการออกผลมีความสำคัญ
เพราะจะก่อให้เกิดการร่วง การแตก
เกษตรกรที่นี่ใส่ปุ๋ยคอกให้กับฝรั่งเมื่อออกดอกประมาณ 2
กิโลกรัมต่อต้นต่อปี ควบคู่กับการให้น้ำอย่างสม่ำเสมอ ไม่พรวนดินลึก
เพราะจะทำให้รากของต้นฝรั่งขาดได้ ฝรั่งจะเริ่มออกผลเมื่ออายุประมาณ 6
เดือน จากนั้นจะใช้ไม้ไผ่ปักไว้เพื่อพยุงผลฝรั่ง
โดยใช้ปลายหรือแขนงไม้ไผ่ขนาดเล็กยาว 1 เมตร
หรือมากกว่านั้นปักใกล้กับกิ่งที่ออกผลแล้ว โดยผูกยึดกับกิ่งไว้
บางสวนจะผูกขั้วผลกับกิ่งหรือไม้ปักเพื่อไม่ให้ผลถ่วงต้น
เพราะน้ำหนักผลฝรั่งมาก ถ้ามีลมพัดแรงต้นจะเฉาตายและรากจะขาดได้
เมื่อเก็บผลผลิตแล้วจะตัดแต่งกิ่งเพราะจะช่วยให้ฝรั่งเกิดกิ่งอ่อน
และมีช่อดอกออกมาทันที ด้วยการทำให้ทรงพุ่มโปร่ง ได้สัดส่วน
อากาศถ่ายเทได้สะดวก แสงแดดส่องได้ทั่วถึง สะดวกในการเก็บผล
ทำให้ได้ผลผลิตที่แน่นอน ผลมีขนาดใหญ่
จะตัดแต่งกิ่งทุกปีเพื่อกระตุ้นการเจริญ และการสร้างตาดอก ใน
ต้นที่สมบูรณ์จะตัดกิ่งก้านออก 25-30%
สำหรับต้นที่ไม่แข็งแรงตัดกิ่งก้านออกประมาณ 20%
นอกจากการตัดแต่งกิ่งแล้วเกษตรกรที่นี่ปลิดผลทิ้งให้เหลือประมาณ 2-6 ผล
ต่อกิ่งเท่านั้น ซึ่งจะดีต่อการได้มาซึ่งลูกฝรั่งที่ต้องการบริโภคผลสด
แต่ถ้าต้องการผลขนาดใหญ่และมีคุณภาพดี ก็จะให้เหลือเพียง 1
ผลต่อกิ่งเท่านั้น
ที่สำคัญเกษตรกรจะห่อผลฝรั่งเพื่อป้องกันกำจัดโรคและแมลงศัตรูฝรั่ง
และทำให้ผลฝรั่งมีผิวสวยน่ารับประทาน
โดยใช้ถุงพลาสติกหรือใช้กระดาษหนังสือพิมพ์ห่อก่อนแล้วจึงสวมถุงพลาสติกทับ
อีกชั้นหนึ่ง
โดยจะเริ่มห่อผลฝรั่งเมื่อมีขนาดเท่าลูกมะนาวหรือหลังดอกบานแล้ว 1 เดือน.
Sat Oct 29, 2016 10:04 pm by buahom
» 100CBN เว็บคลิกไทย 10-20 บาทต่อคลิก+จ่ายจริง
Tue Jan 05, 2016 9:38 pm by buahom
» 100CBN เว็บคลิกไทย 10-20 บาทต่อคลิก+จ่ายจริง
Tue Jan 05, 2016 9:25 pm by buahom
» กสทช.หารือโอเปอเรเตอร์สรุปขั้นตอนการใช้บริการยกเลิก SMS *137 แก้ไขปัญหาผู้ใช้บริการสับสน
Sun Oct 05, 2014 10:28 pm by Admin
» วิธีการแจังยกเลิกบริการSMS ที่ถูกคิดค่าบริการ DTAC AIS True
Sun Oct 05, 2014 10:21 pm by Admin
» SoftEther VPN Client โปรแกรมปลี่ยนไอพี (ip) ให้เป็นไอพีต่างประเทศ
Sun Oct 05, 2014 9:17 pm by Admin
» HMA Pro VPN 2 6 9 Crack + Patch [HIDE MY ASS]
Fri Oct 03, 2014 11:22 am by Admin
» DHCP หมายถึงอะไร
Wed Oct 01, 2014 3:28 pm by Admin
» เพาะเลี้ยงกุ้งฝอย
Wed Oct 01, 2014 12:14 am by Admin